การเคลือบฟลูออไรด์ มีกี่แบบ ? แตกต่างกันอย่างไร?
Case Review
Before & After

การเคลือบฟลูออไรด์ (Fluoride Treatment) เป็นหนึ่งในวิธีดูแลฟันที่ช่วยป้องกันฟันผุ เสริมความแข็งแรงให้เคลือบฟัน เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยสามารถแบ่งประเภทของการเคลือบฟลูออไรด์ได้หลัก ๆ ดังนี้:
1. ฟลูออไรด์ชนิดน้ำ (Fluoride Rinse)
- เป็นน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ผสม ใช้เป็นประจำทุกวันหรือสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- ข้อดี: ใช้งานง่าย เหมาะกับการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน
- ข้อเสีย: ปริมาณฟลูออไรด์ต่ำ ต้องใช้สม่ำเสมอถึงจะเห็นผล
2. ฟลูออไรด์เจล (Fluoride Gel)
- ทาหรือใส่ในถาดครอบฟันแล้วใส่ไว้ในปากประมาณ 1-4 นาที
- ข้อดี: เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงฟันผุสูง เช่น ผู้จัดฟัน หรือผู้มีประวัติโรคฟันผุบ่อย
- ข้อเสีย: ต้องได้รับการดูแลโดยทันตแพทย์เพื่อควบคุมปริมาณ
3. ฟลูออไรด์วาร์นิช (Fluoride Varnish)
- ฟลูออไรด์ชนิดเข้มข้นสูง ลักษณะเหมือนน้ำยาเคลือบ ทาโดยตรงลงบนผิวฟัน
- ข้อดี: ยึดเกาะผิวฟันได้นาน เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เพราะใช้เวลาทาน้อย ปลอดภัย
ข้อเสีย: มีรสหรือกลิ่นที่เด็กบางคนอาจไม่ชอบ และควรงดกิน-ดื่มบางระยะหลังทาข้อดี-ข้อเสียของการเคลือบฟลูออไรด์
ข้อดี
ป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาจเกิดคราบสีขาวหากใช้เกินปริมาณ
ลดอาการเสียวฟันในบางราย
ข้อเสีย
ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ (โดยเฉพาะชนิดวาร์นิชและเจล)
ใช้เวลาไม่นาน ไม่เจ็บ
ต้องทำซ้ำเป็นระยะเพื่อผลลัพธ์ต่อเนื่อง
ทำไมควรเลือกเคลือบฟลูออไรด์ที่ Double Smile Dental Clinic ?
- ดูแลโดยทันตแพทย์เฉพาะทางเด็กและผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ในการดูแลช่องปากเฉพาะบุคคล
- มีการประเมินสุขภาพฟันก่อนทุกครั้ง เพื่อเลือกชนิดของฟลูออไรด์ที่เหมาะกับคุณที่สุด
- ปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก มีเทคนิคเฉพาะที่ช่วยให้เด็กไม่กลัว ไม่ร้องไห้ระหว่างทำ
- เครื่องมือสะอาด ปลอดเชื้อทุกขั้นตอน ตามมาตรฐานคลินิกทันตกรรมระดับสูง
- มีคำแนะนำหลังทำ ทั้งการดูแลที่บ้านและนัดติดตามอย่างใกล้ชิด
การเคลือบฟลูออไรด์เป็นการดูแลฟันที่สำคัญ ช่วยป้องกันฟันผุและเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันได้จริง โดยแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียต่างกัน หากคุณกำลังมองหาคลินิกที่ไว้ใจได้ ดูแลอย่างมืออาชีพ แนะนำให้มาที่ Double Smile Dental Clinic แล้วคุณจะพบกับบริการที่ให้มากกว่าแค่การดูแลฟัน