คำแนะนำหลังการถอนฟันและผ่าฟันคุด

 

1. กัดผ้าก๊อซเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เปลี่ยนผ้าก๊อซใหม่ทุกๆ 1 ชั่วโมง     จนเลือดหยุดไหล
2. ถ้ามีเลือดหรือน้ำลายให้กลืน ห้ามบ้วนเด็ดขาด เพราะเลือดจะไหลไม่หยุด
3. ห้ามเขี่ยหรือดูดแผลเพราะจะทำให้แผลอักเสบได้
4. ห้ามบ้วนน้ำแรง ป้องกันลิ่มเลือดหลุดจากแผล
5. รับประทานอาหารอ่อน งดของเผ็ดจัด ร้อนจัดหรือของมึนเมาทุกชนิด งดสูบบุหรี่
6. หากมีอาการปวดให้รับประทานยาแก้ปวดตามที่คุณหมอสั่งจ่าย หรือแนะนำ หยุดทานยาได้เมื่อไม่มีอาการปวดแล้ว
7. ฟันที่มีการอักเสบ หรือติดเชื้อ จะได้รับยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย ต้องทานยาติดต่อกันจนหมด ไม่หยุดทานยาเองแม้จะไม่มีอาการแล้วก็ตาม เพื่อไม่ให้เชื้อโรคดื้อยา
8. กรณีผ่าฟันคุด และถอนฟันยาก อาจมีอาการปวด บวมมากกว่าปกติได้ ให้ปฏิบัติดังนี้

วันที่ 1 – 2 ประคบน้ำแข็งภายนอกปาก ตรงบริเวณที่บวม ทำบ่อยครั้ง

วันที่ 3 – 7 ประคบน้ำอุ่นภายนอกปาก จนอาการบวม ปวดลดลงจนหายเป็นปกติ

• หากมีอาการผิดปกติใดๆ ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที

คำแนะนำหลังการฟอกสีฟัน

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและการดื่มเครื่องดื่มที่มีสี ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการงดสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 1 – 2 อาทิตย์ แนะนำให้ใช้หลอดในการดื่ม ควรทำความสะอาดช่องปากให้ดีอยู่เสมอ แปรงฟันที่ถูกวิธี การใช้ไหมขัดฟันหลังการรับประทานอาหารและก่อนนอน พบแพทย์หลังการฟอกสีฟันเมื่อฟันเริ่มมีการเปลี่ยนสี ทั้งนี้เพื่อให้ความขาวคงอยู่กับเราไปอีกนาน

อาการเสียวฟันหลังฟอกฟัน

 การฟอกสีฟันอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเสียวฟันเพราะอุณหภูมิ การสัมผัส หรือแรงกดต่างๆ ในคนไข้บางราย อาจจะมีอาการปวดจี๊ดลงไปถึงกลางฟัน

คนไข้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการเสียวฟันหลัง การฟอกสีฟัน ได้แก่ คนไข้ที่มีภาวะเหงือกร่นมีฟันแตก

หรือมีรอยรั่ว ที่เกิดจากการซ่อมแซมฟันที่ไม่ดี โดยทั่วไปแล้วอาการเสียวฟันจะหายไปในช่วงระยะเวลา  1 – 2 อาทิตย์

วิธีลดอาการเสียวฟัน

• หลีกเลี่ยงการรับประทานเครื่องดื่มที่มีคุณสมบัติเป็นกรด อาหารรสจัด รวมไปถึง อาหารที่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป                                             
• ใช้ยาสีฟันสำหรับลดอาการเสียวฟัน
• ในกรณี ฟอกสีฟันที่บ้าน สามารถใช้เจลแก้เสียวฟันร่วมกับถาดฟอกสีฟันได้
•  ทานยาแก้ปวดเมื่อมีอาการเสียวฟันมากๆ
•  ถ้าอาการเสียวฟันไม่ดีขึ้นให้กลับมาพบทันตแพทย์        

ขั้นตอนการฟอกสีฟันด้วยตนเองทีบ้าน  

– ใช้ไซริงค์ฉีดเจลฟอกสีฟัน หรือทาเจลลงบนถาดพิมพ์ฟันให้ทั่วบริเวณผิวด้านหน้าของฟัน ตั้งแต่ฟันเขี้ยวด้านซ้ายไปถึงฟันเขี้ยวด้านขวา บริเวณผิวฟันด้านใน และฟันกรามไม่ต้องใส่น้ำยา

-ใส่ถาดฟอกสีฟันให้เข้าที่ ทั้งฟันบน และฟันล่าง

– เช็ดน้ำยาส่าวนเกินออกด้วยนิ้ว หรือสำลัชุบน้ำ

-ใส่ถาดฟักสีฟัน และน้ำยาทิ้งไว้ ระยะเวลาในการใส่ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ขึ้นกับความเข้มข้นของน้ำยาที่ใช้ หากรู้สึกเสียวฟันสามารถถอกออกก่อนเวลาได้ และทำการฟอกใหม่ในวันถัดไป

-ทำการฟอกสีฟันอย่างสม่ำเสมอ ระยะแรกควรฟอกสีฟันทุกวัน  แต่หากมีอาการเสียวฟันสามารถทำวันเว้นวันได้ และควรทำต่อเนื่องกัน 1 – 3 สัปดาห์ จนได้ระดับความขาวที่พอใจ

คำแนะนำหลังการรักษารากฟัน

1. งดเคี้ยวข้างที่ทำการรักษา 24ชม. เพื่อให้วัสดุอุดชั่วคราวแข็งตัวก่อนใช้งาน

2. หลังจากนั้นใช้งานได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงอาหารแข็งและเหนียวจนเกินไปเพื่อป้องกันฟันแตก

3. หลังรักษาอาจมีอาการข้างเคียงเช่น ตึง ปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดบรรเทาอาการได้ และหยุดกินเมื่อหายปวด แต่หากมีอาการบวมแนะนำติดต่อกลับมาทางคลินิกเพื่อเปิดล้างคลองรากฟันหรือจ่ายยาฆ่าเชื้อเพิ่มตามความเหมาะสม

4. ควรมาทำการรักษาตามนัดทุกครั้ง เพื่อให้ฟันได้รับการอุดปิดให้เร็วที่สุด ป้องกันการติดเชื้อซ้ำอีก

5. หลังรักษารากเสร็จส่วนใหญ่จะแนะนำให้ทำการบูรณะด้วยเดือยฟันและหรือครอบฟันต่อเนื่อง เพื่อป้องกันฟันแตกจากการ ใช้งาน